Lone Druid เป็น Hero สาย AGI ที่สามารถเลือกเล่นได้ถึง 2 สายด้วยกัน ทั้งสายเลี้ยงหมี หรือ สายแปลงร่างเป็นหมี ซึ่งทั้ง 2 สายมีความเก่งกาจด้วยกันทั้งคู่ครับ อยู่ที่เราแล้วละครับ ว่าจะเลือกเล่นสายไหนดี Lone Druid มี Range ในการโจมตีไม่ไกลมาก ดังนั้นการยืนยิง Creep ควรระวัง Hero สาย Range ฝั่งตรงข้ามที่มีระยะ Range ที่ไกลกว่าด้วยนะครับ แต่ใช่ว่าจะเสียเปรียบอะไรมากมาย เพราะ Lone Druid นั้นมีสกิล Rabid ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีและการเคลื่อน แถมเสียค่า MP น้อยมากครับ 50 MP เท่านั้นเอง
หน้าที่ในทีม
โดยทั่วไปแล้ว Lone Druid ถ้าเลือกเล่นสาย Summon Spirit Bear ก็จะง่ายต่อการกดดันฝั่งตรงข้ามครับ เพราะเท่ากับว่าเรามียูนิต Hero เพิ่มเป็น 3 ยูนิตด้วยกัน รวม Hero เพื่อนของเราที่มาด้วยกันอีกคน ทำให้ได้เปรียบขึ้นมาอีกหน่อย และยังสามารถใช้หมีของเราเข้าไปชนได้อีกด้วย เพราะแค่เพียงสกิล Summon Spirit Bear เลเวล 1 หมีของเราก็มีค่า HP 1400 แล้วครับ เดินหน้า Tank ใส่ Hero ฝั่งตรงข้ามได้เลยและรอลุ้นให้ติดสกิล Entangle ของหมีจะทำให้ยูนิตที่โดนโจมตีถูกตรึงไว้กับที่ระยะเวลาหนึ่งครับ
แนวทางการเล่นในช่วงต้นเกม 1 – 7
ช่วงแรกนั้นถ้าเราเล่นสาย Summon Spirit Bear ก็อัพสายนี้ในเต็มเลยครับ จากนั้นก็เสริมความเก่งของหมีเราด้วยการอัพสกิล Synergy หมีของเราก็จะมีความถึกขึ้นและมี Damage ที่แรงขึ้นพอตัวแล้วละครับ เดินหน้าดันป้อมไปเรื่อย แต่อย่าลืมอัพสกิล Rabid ไว้ด้วยจะได้โจมตีเร็วขึ้น และที่สำคัญอย่าลืมซื้อ Item ดีๆ ใส่ให้หมีของเราด้วยนะครับ หมีของเราจะได้เก่งๆ
แต่ถ้าเลือกเล่นสายแปลงร่างคงต้องรอตอนเลเวล 6 ก่อนนะครับ เราจะได้สกิล True Form เพื่อแปลงร่างเป้นหมียัก ซึ่งในช่วงแรกๆให้เราอัพสกิล Rabid และ Synergy รอไว้ก่อนครับ ไม่ต้องอัพสกิลสาย Summon Spirit Bear นะครับเพราะไม่ได้ใช้ พอเราได้สกิล True Form มาแล้วจะถือว่าเรามีความอึดเพิ่มขึ้นพอสมควรครับเพราะได้ค่า HP เพิ่มขึ้น และยังเพิ่มพลังป้องกันเพิ่มอีก 4 หน่วยครับสำหรับ True Form เลเวลแรก ถ้าหากใช้สกิล Battle Cry ที่เป็นสกิลพิเศษที่ใช้ได้เฉพาะตอนแปลงร่างแล้ว เพิ่มเข้าไปอีกก็จะเพิ่มพลังโจมตีและค่าพลังป้องกันได้อีกด้วย แต่ข้อควรรู้อีกนิดก็คือเมื่อแปลงร่างแล้ว การโจมตีของเราจะเปลี่ยนเป็นการโจมตีระยะประชิดแทนจากเดิมที่เป็นสาย Range ครับ
แนวทางการเล่นช่วงกลางเกม 7 – 16
พอมาถึงช่วงนี้เราควรเริ่มออก Item ดีๆให้หมีของเราได้แล้วครับ โดยซึ่ง Item ที่เราจะซื้อมาใส่ให้หมีของเราควรเน้นไปทางเพิ่มความเร็วในการโจมตีแล้ะพื่มความเร็วในการเคลื่อนที่ หมีของเราจะได้เดินไล่ตบ Hero ฝั่งตรงข้ามได้ทันและเพิ่มโอกาศติดสกิล Entangle ให้เพิ่มมากขึ้น แต่ก็อย่าลืมของ Item ที่เพิ่มค่า HP ให้กับตัวเราเองด้วยนะครับ เพราะว่าเราจะตกเป็นเป้าหมายแรกๆ ที่จะโดนยำสกิลจาก Hero ฝั่งตรงตรงข้าม เพราะถ้าเราตายหมีเราก็ตายด้วยครับ แต่ถ้าหากหมีของเราตาย ตัวเราจะแค่เสียค่า HP ลงบางพอสมควรครับ
แนวทางการเล่นช่วงกลางเกม 7 – 16
ในส่วนของสาย True Form นั้นให้เน้นการออก Item เน้นเพิ่มความเร็วในการโจมตี เนื่องจากเมื่อเราแปลงร่างเป็นหมีแล้ว จะมีความอึดและโจมตีแรงพอสมควรครับ แถมยังมีสกิล Battle Cry ที่ช่วยเพิ่มทั้ง Damage และพลังป้องกัน ถ้าหากต้องการความชัวร์ก็ออกไอเทมที่มีความสามารถดูดค่า HP จากยูนิตที่โจมตีคือ Mask of Death เพื่อรอนำไปผสมของของดูดค่า HP ชิ้นต่อไป คราวนี้ก็ยืนชนได้สบายแล้วครับ
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมเลเวล 17-25
ขอบอกว่าโหดแล้วครับสำหรับสาย Summon Spirit Bear เนื่องจากการโจมตีของหมีที่เร็วขึ้นทำให้ติดสกิล Entangle มากขึ้น ใครโดนหมีไล่ตบนี่แทบไม่ต้องขยับกันเลย ถ้าไม่เจ๋งจริงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามา 1-1 กับเราละครับ หลักๆสำหรับช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วงแล้วครับ เดินหน้าบุกลูกเดียวคอยยิงช่วยหมีไปเรื่อยๆ แต่อย่าลืมออกไอเทมเพิ่มค่า HP ให้กับตัวของเราด้วยนะครับ ส่วนของหมีคงไม่ต้องแล้วเพราะเมื่ออัพสกิล Summon Spirit Bear เต็มแล้ว หมีของเราจะมีค่า HP ถึง 2700 ครับ
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมเลเวล 17-25
หากเลือกเล่นสาย True Form เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกม ช่วงนี้ HP ค่อนข้างเยอะ Damage แรง แถมมี Item ดูดเลือดลุยสบาย คราวนี้ก็ช่วยเพื่อนเข้าชนอีกแรงนึงครับ บุกตลุยตาม Tanker เข้าไปได้เนียนแบบเนียนๆ แต่อย่าเผลอเข้าไปก่อน Tank นะครับ เพราะเราไม่ได้อึดมากขนาดที่จะ Tank แทนได้ครับ