เทคนิคการเล่น
Nomad เป็นฮีโร่สาย Carry ก็จริงแต่ในช่วงต้นเกมนั้นก็มีสกิลที่แรงมากๆ สามารถเก้บฝั่งตรงข้ามได้ง่ายๆ การออก Bottle และไปเลนกลาง ถ้าเราสามารถคุมรูนได้จะทำให้ Nomad สามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่องมาก โดยเฉพาะถ้าได้รูน Hastle หรือ Double Damage ละก็เกือบเตรียมหาเหยื่อเคราะห์ร้ายได้เลย หลังจากนี้พอ Nomad มีสกิล Edge Counter จะทำให้น่ากลัวขึ้นมากเลยทีเดียว พยายามรอใช้ในจังหวะที่ศัตรูใช้สกิลมาจะช่วยป้องกันความเสียหายได้มากเลยทีเดียว จังหวะที่ใช้ง่ายที่สุดจะเป็นเวลาที่เราใกล้ตาย ซึ่งศัตรูส่วนใหญ่จะประเคนทุกสกิลมาใส่เราแน่นอน การใช้สกิล Edge Counter ที่ตรงจังหวะนอกจากจะป้องกันตัวเราเองแล้วยังทำความเสียหายและป่วนทีมฝั่งตรงข้ามมากเลยทีเดียว แต่สำหรับการใช้สกิล Edge Counter มีจุดที่ต้องระวังคือ ถ้าเรามี Null Stone และฝั่งตรงข้ามใช้สกิลมาโดยที่ Null Stone ของเราสามารถป้องกันได้และเรากดใช้สกิล Edge Counter พอดี ผลของสกิลศัตรูจะเข้า Null Stone แทนและการใช้สกิล Edge Counter ของเราจะพลาดทันที ในจุดนี้ต้องระวังด้วย
ฮีโร่ที่คอมโบได้
Nomad เป็นฮีโร่ที่สามารถจัดการฝั่งตรงข้ามได้ดีด้วยตัวเองอยู่แล้วเพราะมีสกิลที่สามารถไล่ล่าได้และรุนแรงมาก ถ้ามีฮีโร่ที่สามารถลดเกราะฝั่งตรงข้ามจะช่วยได้มาก เช่น Pandamonium กับสกิล Flick ที่สามารถลดความเร็วการเคลื่อนที่ฝั่งตรงข้ามและยังช่วยลดเกราะอีกด้วย ซึ่งเหมาะมากกับ Nomad ซึ่งเท่าไหรการโจมตีแรงขึ้นอีกเกือบเท่าตัว
ฮีโร่ที่ชนะทาง-แพ้ทาง
สำหรับ Nomad นั้นสามารถเอาชนะฮีโร่ได้เกือบทุกตัวด้วยสกิล Edge Counter แต่ตรงจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในตัวผู้เล่นซะมากกว่า โดยถ้าเราสามารถใช้สกิล Edge Counter ป้องกันได้ก็จะทำให้ได้เปรียบขึ้นมาทันที แต่ถ้าพลาดก็จะเปลี่ยนเป็นเสียเปรียบได้ เช่นกัน โดยฮีโร่ที่จะมีปัญหาเล็กน้อยคือพวกที่มีสกิลหยุดเราได้อย่างว่องไว เช่น Pollywog Priest กับสกิล Morph ที่สามารถหยุดเราได้ทันที ซึ่งจะค่อนข้างเป็นปัญหาเล็กน้อย รวมถึงฮีโร่ที่มีสกิลใบ้ เช่น Defiler ซึ่งจะทำให้เราไม่สามารถใช้สกิลได้ จะค่อนข้างสร้างปัญหาเป็นพิเศษ